แก่จัด จะมีอายุประมาณ 365 วัน หรือ ประมาณ 1 ปี พอดี เนื้อไม้กะลาในช่วงนี้จะหนา
และแก่จัดเต็มที่ เราจึงเลือกส่วนนี้มาใช้ทำถ่าน เพราะเมื่อนำกะลาในช่วงนี้ไปเผาจะมี
คุณภาพดีที่สุด จะได้ทั้งความหนาของเนื้อไม้ ความแกร่ง ความแข็ง มีมันวาว
และเมื่อนำไปใช้จะให้ความร้อนสูงมากๆรวมไปถึงขี้เถ้าจะมีน้อยมาก เนื่องจาก
ความร้อนของถ่านจะเผาขี้เถ้าให้เหลือน้อยลง
พิเศษที่เราสร้างขึ้นเอง เพื่อเผากะลามะพร้าวโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ถ่านที่มีคุณภาพดีที่
สุด นอกจากเราจะใส่ใจเรื่องเตาแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญมาก อีกอย่างหนึ่ง การตั้งเตา
ทิศทางลม การควบคุมอากาศ และการกระจายความร้อนให้ทั่วเตา เพื่อให้ถ่านสุกทั่วกัน
ภายในเตาทั้งหมด สำหรับความร้อนที่เราใช้เผากะลามะพร้าวจะอยู่ประมาณ 500 –700
องศา ถือว่าอุณหภูมิค่อนข้างจะสูงพอสมควร สำหรับการทำถ่านชนิดนี้ครับ
เพราะเราต้องการจะไล่สารทาร์หรือสารก่อมะเร็งให้หมด และเรายังต้องการให้ถ่านมี
เปอร์เซ็นต์คาร์บอนสูงๆ เพื่อความบริสุทธิ์ขชองถ่านจะได้มีมากขึ้น
ตะแกรง เพื่อคัดแยกถ่านกะลาพร้าวที่เป็นเกล็ดกับที่เป็นฝุ่นกะลาออกจากกันและนำ
เฉพาะส่วนที่เป็นเกล็ดกะลามะพร้าวไปใช้งานต่อไป
ให้เข้ากัน โดยวัตถุต่างๆ ของเรา ก่อนจะนำมาผสมทุกครั้งจะทำการตรวจสอบอีก
ถึงแม้ว่าเราจะใช้วัตถุดิบทุกอย่างเป็นเกรด A แต่เพื่อต้องการให้ถ่านออกมาคุณภาพดี
และเป็นการเช็คสินค้าอีกครั้งก่อนนำมาใช้ เพื่อให้ความมั่นใจว่าวัตถุดิบที่นำมาผสม
ทุกครั้งจะต้องสดใหม่ตลอด ก่อนจะนำไปอัดแท่ง
คือ คุณภาพของการอัดที่แน่นกว่าเจ้าอื่นๆ เพราะด้วยสกรูที่เราออกแบบเป็นพิเศษ
เน้นเกรียวอัดที่ความละเอียดและถี่มาก เวลาอัดออกมาถ่านจะเรียงตัวสวยและอัดติดกัน
แน่นมาก ไม่แตกหัก ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปทรงแล้วแต่ความถนัดหรือความต้อง
การของลูกค้า หลังจากทำถ่านอัดแท่งออกมาแล้ว
สุกอีกครั้ง ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นตัวชี้วัดคุณภาพของถ่านอัดแท่งที่ได้มาตรฐานระดับเกรด
ส่งออกและเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกครับ
|